ผู้ว่าการ มอบนโยบาย การทำงานร่วมกับสมาคมกีฬา

         ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย บรรยายพิเศษการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการทบทวนแผนยุทธศาสตร์สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และพัฒนาเกณฑ์การบริหารจัดการสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562 ในหัวข้อ “ทิศทางการดำเนินงานร่วมกันระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทยกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย” โดยมี ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 88 สมาคม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ ห้องพาวิลเลี่ยน ชั้น 8 โรงแรม เดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา

           ผู้ว่าการ กกท. กล่าวถึงนโยบายการทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมกีฬานั้นมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาจะต้องเริ่มจากองค์กรและภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการกีฬาของประเทศไทย โดยสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้วย ซึ่งทุกสมาคมจะต้องร่วมมือกันจะนำไปสู่อนาคตที่มีคุณภาพของการกีฬาภาพรวมของประเทศ โดยมีนโยบายในการดำเนินงานต่างๆคือ

          1. ความร่วมมือในการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน ในการทำงานร่วมกันนั้นจะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันเป็นทีม ต้องมองว่าทุกคนนั้นเป็นผู้ร่วมกันพัฒนาประเทศ เน้นการวางรากฐานร่วมกันซึ่งจะตอบโจทย์กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะการวางรากฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนจะต้องมีจุดประสงค์เดียวกันและตั้งเป้าหมายให้ไกล

          2. การทำงานที่เชื่อมโยงกับศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา โดยสมาคมกีฬาต่างๆนั้นจะต้องร่วมมือกันให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาและปรับปรุงระบบต่างๆ ซึ่งศูนย์ฝึกซ้อมกีฬาจะนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาปรับใช้ด้วยเพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาให้ดีที่สุด ซึ่งจะพัฒนาศูนย์ฝึกซ้อมกีฬาให้ได้มาตรฐานสากล และเพื่อจัดให้มีศูนย์ฝึกซ้อมกีฬาครบทุกกีฬาให้มีความสมบูรณ์แบบและใช้ได้จริง

         3. พัฒนาการจัดการกีฬา กกท. จะพัฒนาสมาคมกีฬาทุกสมาคมให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกัน และยกระดับมาตรฐาน ซึ่ง กกท. จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เช่น งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐนั้น จะมีกฎระเบียบต่างๆในบางเรื่องอาจทำให้ล่าช้า ซึ่ง กกท. ก็อาจจะปรับกฎระเบียบต่างๆให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาต่างๆ ก็จะช่วยสนับสนุนให้กับทุกสมาคมอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกสมาคมมีมาตรฐานที่สามารถเทียบเท่าระดับสากล

          4. หลักธรรมาภิบาล เป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญในการบริหารจัดการที่ดี ต้องขอความร่วมมือจากสมาคมกีฬาให้ใช้หลักธรรมาภิบาลของโอลิมปิกสากลในการบริหารจัดการต่างๆ จะต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และทำตามกฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆอย่างเคร่งครัด จะสามารถทำให้การบริหารจัดการต่างๆพัฒนาขึ้นไปได้ และเป็นสากล

          5. การใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา จะต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาคม ผู้ฝึกสอน ผู้จัดการทีม รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกส่วน ในการให้ความรู้และความเข้าใจแก่นักกีฬาในเรื่องของสารต้องห้ามทางการกีฬา ทุกคนจะต้องร่วมมือกันเป็นทีม ซึ่งการใช้สารต้องห้ามต่างๆนั้นมีผลถึงในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และเป็นชื่อเสียงของประเทศอีกด้วย

          ทั้งนี้ การอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการทบทวนแผนยุทธศาสตร์สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และพัฒนาเกณฑ์การบริหารจัดการสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประจำปี 2562 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 – 6 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมี วิทยากรในวงการกีฬาร่วมบรรยาย อาทิ การบรรยายในหัวข้อ “วิเคราะห์การบริหารยุทธศาสตร์ การกำหนดจุดยืน และวิเคราะห์SWOT”, “การกำหนดจุดยืนการพัฒนาของแผนยุทธศาสตร์”, “แนวทางเพื่อดำเนินการตามแนวทางการพัฒนากีฬาเป็นเลิศ (MODEL) ให้ประสบความสำเร็จ”