ผู้ว่าการ มอบนโยบาย มุ่งผลักดันเป็นองค์กรสมรรถนะสูง

ผู้ว่าการ มอบนโยบาย มุ่งผลักดันเป็นองค์กรสมรรถนะสูง

          ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมแผนการดำเนินโครงการตามนโยบายผู้ว่าการ กกท. และขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยมี นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายราเชลล์ ได้ผลธัญญา รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร, ผู้อำนวยการฝ่าย/สำนัก, ผู้อำนวยการกอง, ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. ภาค 5 ภาค, ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. จังหวัด 76 จังหวัด และหัวหน้างาน จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมงาน ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา

          ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า จากที่ตนได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ กกท. มาเป็นเวลา 3 เดือนนั้น ได้มีแผนการในการพัฒนาการกีฬาต่างๆ 12 ด้าน โดยอาจจะยังดำเนินการได้ยังไม่ครบทั้ง 12 แผนงานเนื่องจากเป็นการวางแผนพัฒนาระยะยาวที่ต้องใช้เวลาและสร้างระบบในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงในตอนนี้คือการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง โดยเริ่มจากการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพราะบุคลากรนั้นจะต้องเป็นทีมงานที่มีคุณภาพ มีความสามารถ เพื่อผลักดันองค์กรให้เป็นองค์กรสมรรถนะสูง ซึ่งทุกคนในองค์กรจะต้องค่อยๆปรับการทำงาน จะนำไปสู่อนาคตที่มีคุณภาพขององค์กร โดยมีแนวทางในการดำเนินงานต่างๆ 2 เรื่องหลักคือ

         1. การเน้นปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆนั้น จะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องและครบถ้วนในการดำเนินงานต่างๆ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญในการทำงาน รวมไปถึงการบังคับใช้ พรบ. ต่างๆ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้มีความสำคัญมากในการพัฒนาวงการกีฬา เพราะในปัจจุบันกฎหมายเหล่านี้ยังครอบคลุมไม่ครบถ้วน ซึ่งสิ่งที่จะสามารถช่วยได้คือการออกกฎหมายลูกเพื่อ อยากให้ฝ่ายงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในส่วนนี้ช่วยกันเร่งรัดนำกฎหมายลูกต่างๆออกมาทบทวนแก้ไข โดยจะให้เน้นเรื่องการวางแผนพัฒนากีฬาในระยะยาว และในอีกส่วนคือเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องการหาวิธีการทำให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และถูกต้อง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนที่มีผลต่อการประเมินองค์กรเช่นกัน ทุกคนสามารถช่วยการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงได้โดยอาศัยความร่วมมือกันภายในองค์กร

          2. การนำเทคโนโลยีและระบบดิจิตอลมาปรับใช้กับการดำเนินงานต่างๆในองค์กร สามารถตรวจสอบการดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆได้อย่างโปร่งใส และสามารถทำให้ขั้นตอนในการดำเนินงานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การลงนามในระบบอิเล็กทรอนิกมาปรับใช้กับองค์กร ซึ่งจะช่วยในกระประหยัดทรัพยากร ลดการใช้กระดาษ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย จะเห็นว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีนั้นมีความสำคัญกับการทำงานมากขึ้น ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงในหลายๆเรื่องจะต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้องค์กรมีนวัตกรรมและปรับใช้ให้เข้ากับกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.ใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น

          นอกจากนี้ ในด้านการพัฒนาวงกีฬาต้องการมุ่งเน้นเรื่องการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้กับนักกีฬาให้มากขึ้นซึ่งมีหลายวิธีการอยู่แล้ว แต่อยากผลักดันให้เกิดขึ้นรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะเน้นการพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬาให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมกีฬา คือการสร้างจิตสำนึกในนักกีฬา ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้ง สมาคมกีฬา, ผู้ตัดสิน, ผู้ฝึกสอน, และบุคลากรกีฬาทั้งสิ้น ต้องช่วยพัฒนาให้มีคุณธรรม รู้แพ้รู้ชนะ ต้องมีจิตวิญญาณของนักกีฬา เพราะในหลายๆครั้งการแข่งขันกีฬาต่างๆ ปัจจุบันบางครั้งต้องใช้เทคโนโลยีในการช่วยตัดสิน ซึ่งถ้านักกีฬามีจิตสำนึกที่ดีมีคุณธรรม เทคโนโลยีเหล่านี้นั้นจะไม่จำเป็นต้องใช้เลย การปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีมีคุณธรรมนี้จะช่วยสร้างเยาวชนให้มีความซื่อสัตย์และเป็นคนที่มีจิตสำนึกที่ดี ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพประชากรภายในประเทศอีกด้วย