กกท.เตรียมแผนติดตามนักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 อย่างใกล้ชิด ฟิลิปปินส์หวังเจ้าทอง บรรจุ 56 ชนิดกีฬา

พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกชนิดกีฬา นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ประจำทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ครั้งที่ 1/2562 โดยมีพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ,พลเอกรณชัย มัญชุสุนทรกุล ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการคัดเลือกฯ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย และสมาคมกีฬาที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 52 สมาคม ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.จารึก กล่าวในที่ประชุมว่า ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ จะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 11 ธ.ค. จำนวน 56 ชนิดกีฬา 524 อีเวนต์ ใน 3 เมือง คือ กรุงมะนิลา 22 กีฬา, เมืองคลาร์ก 17 กีฬา และเมืองซูบิค 14 กีฬา โดยนักกีฬาไทยส่งนักกีฬาทำการแข่งขันทั้งสิ้น 53 กีฬาจาก 52 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งจะไม่ส่งชิงชัย 3 กีฬา คือ อาร์นิส (ศิลปะป้องกันตัวประจำชาติฟิลิปปินส์), ฮอกกี้ใต้น้ำ และออบสตาเคิล (กีฬาวิ่งผ่านอุปสรรค) เพราะไม่มีสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 1,048 คน เป็นนักกีฬา (ชาย 605 คน, หญิง 443 คน) นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้ง นายธนา ไชยประสิทธิ์ เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย รวมทั้ง รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต และนายทินกร นำบุญจิตต์ เป็นรองหัวหน้าคณะนักกีฬากระจายกันไปดูแลนักกีฬาไทยใน 3 เมือง โดยนายธนาจะเดินทางไปประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬาที่ฟิลิปปินส์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ตุลาคม เพื่อรับทราบรายละเอียดทั้งหมด

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ในการเตรียมแผนการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาในการแข่งขันครั้งนี้ จะเริ่มเก็บตัวตั้งแต่วันที่ 2 ม.ย.เป็นต้นไปจนไปถึง พ.ย. เป็นระยะเวลา 8 เดือน ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแล ติดตามนักกีฬาอย่างใกล้ชิด โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กกท.กับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่ลงไปสังเกตการณ์ในทุกๆชนิดกีฬา ดูในทุกๆ ด้าน เพื่อสนับสนุน ช่วยเหลือให้สมาคมกีฬาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เพื่อความหวังของคนไทยทั้งประเทศ

รองผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง กกท. ได้เชิญสมาคมกีฬาที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์หนนี้ มาทำแผนเตรียมนักกีฬาเมื่อปลาย ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายสมาคมที่ได้เตรียมเก็บตัวนักกีฬาก่อนล่วงหน้าแล้ว ส่วนมากจะเป็นสมาคมที่อยู่ในกลุ่มกีฬาสากลที่มีการแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ สำหรับงบประมาณในการเก็บตัวนั้น ได้ให้สมาคมฯส่งแผนงบประมาณมาให้ ซึ่งทาง กกท. ขอเวลาอีก 2 สัปดาห์ ในการพิจารณารวบรวมดูภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพื่อเอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนกีฬาแห่งชาติพิจารณาต่อไป และในปลาย เม.ย.นี้ กกท.จะจัดปฐมนิเทศนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ เพื่อสื่อสารกับนักกีฬาโดยตรง ถึงนโยบายการเก็บตัว การเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ให้ความรู้เรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่ง กกท.จะเพิ่มความเข้มข้นในการเตรียมความพร้อมในการเก็บตัวนักกีฬาในครั้งนี้

ภายหลังการประชุม ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ในกีฬาซีเกมส์ทุกครั้งนั้น ไทยคาดหวังเจ้าเหรียญทองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ครั้งนี้เจ้าภาพฟิลิปปินส์บรรจุกีฬาพื้นบ้านเยอะ ทำให้ความหวังเจ้าทองของไทยค่อนข้างยาก แต่อย่างไรก็ตาม จะเน้นความเป็นเลิศในกีฬาสากลเป็นหลัก และแม้ว่าจะไม่ใช้กีฬาระดับเอเชี่ยนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์ แต่อยากให้นักกีฬาทุกคนทำผลงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชนชาวไทย.