16 ทีม ร่วมชิงชัยฟุตบอลลีกเยาวชนฯ U17 ที่อุดรธานี

นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ รอบแชมป์เปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2018-2019 รุ่นอายุ 17 ปี โดยมี นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายวิรชน ประดับศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. จังหวัดอุดรธานี, ผู้บริหารจากภาครัฐ และเอกชน ในจังหวัดอุดรธานี ร่วมในพิธี ณ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดอุดรธานี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ รอบแชมป์เปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2018-2019 รุ่นอายุ 17 ปี ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างมิติใหม่ในวงการกีฬาของจังหวัดอุดรธานีอีกครั้ง โดยจังหวัดอุดรธานี ได้แสดงให้เห็นถึงความมีศักยภาพ ความพร้อมด้านต่างๆ ตลอดจนความร่วมมือกันของภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาบูรณาการในการจัดการแข่งขันร่วมกัน ขอแสดงความขอบคุณจากใจที่ทุกฝ่ายได้สร้างประโยชน์ สร้างโอกาส และสร้างสีสันให้จังหวัดอุดรธานีในรูปแบบต่างๆ ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลที่จังหวัดอุดรธานีได้รับ เป็นการตอกย้ำในความเป็นเมืองกีฬา (Sports City) ของจังหวัดอุดรธานีมากยิ่งขึ้น

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยจังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยอารยธรรม ศิลปะ และวัฒนธรรม รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน และธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย รวมถึงความรัก ความสนใจกีฬาของชาวอุดรธานี เชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ประกอบการจัดการอย่างมีระบบ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับนักกีฬา นักท่องเที่ยว ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งระบบการรักษาความปลอดภัย อย่างมืออาชีพ ทั้งภาครัฐและเอกชน จะทำให้ทุกท่านมีความสุขในการมาเที่ยวจังหวัดอุดรธานี

ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ รอบแชมป์เปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2018-2019 รุ่นอายุ 17 ปี จัดขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานการแข่งขันกีฬาอาชีพสู่มาตรฐานสากล ส่งเสริมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนโครงการ “สานฝันฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก” ให้นักกีฬาฟุตบอลระดับเยาวชนได้มีเวทีในการพัฒนาข้ดความสามารถ โดยได้รับความร่วมมือจาก กกท. , สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนในจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันแป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 16-27 กรกฎาคม 2562 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 16 ทีม โดยทีมแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท, รองแชมป์ได้ 5 แสนบาท อันดับ 3 ได้ 2 แสนบาท และอันดับ 4 ได้ 1 แสนบาท.