กกท. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ นำวิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของนักกีฬา

พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ นักกายภาพและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในส่วนภูมิภาคประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ณ โรงแรมเดอะแกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ศรีนครินทร์ กรุงเทพมหานครเมื่อวันพุธที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา

การกีฬาแห่งประเทศไทย กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ นักกายภาพและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในส่วนภูมิภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในครั้งนี้ขึ้นเพื่อสรุปผลการดำเนินงาน และวางแนวทางการดำเนินโครงการให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาของชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 รวมถึงเพื่อพัฒนาและสร้างเครือข่ายด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางการกีฬาและนำไปพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาระดับจังหวัด

พันโทรุจ กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์การกีฬา โดยในปัจจุบันการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามีความสำคัญอย่างมาก เป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของนักกีฬาให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด และทำให้นักกีฬาประสบผลสำเร็จในการแข่งขันกีฬาในทุก ๆ ระดับ ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเอาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามาพัฒนาศักยภาพนักกีฬาตั้งแต่ระดับพื้นฐาน โดยเฉพาะนักกีฬาตัวแทนจังหวัด ซึ่งเป็นฐานประชากรกีฬาที่สำคัญของชาติ จึงได้จัดทำโครงการให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในส่วนภูมิภาค โดยนำเอาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มีอยู่ทั่วประเทศ (เครือข่ายด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา) ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น แพทย์ นักกายภาพบำบัด จากโรงพยาบาล นักวิทยาศาสตร์การกีฬาจากมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกีฬา สถานออกกกำลังกาย ฯลฯ ทั้งภาครัฐและเอกชน มาช่วยเสริมสร้างรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพของนักกีฬาที่เป็นตัวแทนจังหวัด ให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ และสร้างความสำเร็จจากการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ใน 7 ของเอเชียต่อไป

ทั้งนี้ การจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ นักกายภาพและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาในส่วนภูมิภาคประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีผู้เข้าร่วมการประชุมฯ จำนวน 201 คน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 ตุลาคม 2563 รวม 2 วัน