กกท. มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคลในวงการกีฬามวยเนื่องใน “วันมวยไทย”

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเชิดชูเกียรติวันมวยไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2563 โดยมี คณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา, คณะกรรมการจัดงาน และบุคคลในวงการกีฬามวย ร่วมงาน ณ บริเวณลานพลาซ่า อินดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก กกท. เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า การจัดงานเชิดชูเกียรติวันมวยไทยในวันนี้ นอกจากเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) ตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังเป็นการดำรงคงไว้ ซึ่งศิลปะมวยไทย อันเป็นภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของประเทศ ตลอดจนถึงการพัฒนามาเป็นการแข่งขันในรูปแบบของกีฬา อันเป็นการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวย ตามภารกิจของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญการจัดงานครั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ยังได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคคลวงการกีฬามวย จึงได้จัดให้มีการมอบรางวัลให้แก่บุคคลในวงการกีฬามวย เพื่อประกาศเกียรติคุณ และเชิดชูเกียรติ ยกย่อง นักกีฬา บุคลากรในวงการกีฬามวย ทั้ง ๗ ประภท ประกอบด้วย นักมวย ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน หัวหน้าค่ายมวย ผู้จัดการนักมวย ผู้จัดรายการแข่งขันมวย นายสนามมวย รวมทั้งสถานประกอบการกีฬามวย ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างซื่อเสียง ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการกีฬามวยของชาติ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลในวงการกีฬามวยที่ทุ่มเท เสียสละ สร้างสรรค์ เพื่อวงการกีฬามวย จึงถือได้ว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติอย่างยิ่งอีกรางวัลหนึ่งของประเทศ

จากนั้น เป็นการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติวันมวยไทย ครั้งที่ 8 ประจำปี 2563 มีผู้ได้รับรางวัล ดังต่อไปนี้

รางวัลผู้ให้การส่งเสริมสนับสนุนกีฬามวยดีเด่น ได้แก่ บริษัท โตโยต้า เค. มอเตอร์ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด, บริษัท สวนลุมไนท์บาชาร์ รัชดาภิเษก จำกัด, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ซีพีเอฟ, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), รางวัลสื่อมวลชนดีเด่น นายพัลลภ ศรีไพรวัลย์ (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ), รางวัลผู้ทรงคุณค่ากีฬามวยดีเด่น สาขาการอนุรักษ์และเผยแพร่กีฬามวย ได้แก่ นายทวี พิพัฒน์กุล (พุฒิ ล้อเหล็ก), สาขาผู้ทรงคุณูปการต่อวงการกีฬามวย ได้แก่ นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม, รางวัลปูชนียบุคคลกีฬามวยดีเด่น ได้แก่ นายสมชาย นิติวนะกุล และนายพิชัย ชุณหวชิร, รางวัลผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างประเทศดีเด่น ได้แก่ นายผุดผาดน้อย ออมกลิ่น, รางวัลหัวหน้าค่ายมวยดีเด่น ได้แก่ นายสมจิตร แว่นแก้ว (ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์), รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬามวยดีเด่น ได้แก่ นายสุบิน สนตอน (ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์), รางวัลผู้ฝึกสอนกีฬามวยสมัครเล่นดีเด่น ได้แก่ นายภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค, รางวัลผู้ตัดสินกีฬามวยดีเด่น ได้แก่ สิบตำรวจโท วัชรินทร์ รัชนิพนธ์ (สนามมวยเวทีลุมพินี), รางวัลผู้จัดการนักมวยดีเด่น ได้แก่ นางสาวสุนทรี โลหะพืช (ค่ายมวยจิตรเมืองนนท์) รางวัลผู้จัดรายการแข่งขันมวยยอดเยี่ยม ได้แก่ นายพีรพงศ์ ธีระเดชพงษ์, รางวัลผู้จัดรายการแข่งขันมวยดีเด่น ได้แก่ นายสมจิตร แว่นแก้ว, รางวัลนายสนามมวยดีเด่น ได้แก่ นายธีระยุทธ หอประเสริฐกิจ (สนามมวยเวที่มวยสยาม),

รางวัลไหว้ครูมวยไทยสวยงามดีเด่น ได้แก่ นายศาสตรา ทองยศ (โผน พรัญชัย), รางวัลคู่มวยดุเดือดดีเด่น ได้แก่ กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย กับ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์, รางวัลนักมวยสากลสมัครเล่นดีเด่น (ชาย) ได้แก่ จ.ส.อ. ฉัตรชัยเดชา บุตรดี, รางวัลนักมวยสากลสมัครเล่นดีเด่น (หญิง) ได้แก่ อส.กพ(หญิง)สุดาพร สีสอนดี, รางวัลนักมวยไทยสมัครเล่น (ชาย) ได้แก่ นายนฤพล จิตรา, รางวัลนักมวยไทยสมัครเล่น (หญิง) ได้แก่ นางสาวธนวรรณ ทองดวง, รางวัลนักมวยสากลอาชีพดีเด่น (ชาย) ได้แก่ นายชยพล มูลศรี (วันเฮง มีนะโยธิน), รางวัลนักมวยไทยอาชีพดาวรุ่งดีเด่น (ชาย) ได้แก่ นายอรรถรินทร์ ฟุกลิ่น (เสาร์โท ศิษย์เชฟบุญธรรม), รางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น (หญิง) ได้แก่ นางสาวณัชกมล จันหาศรี (วันเดอร์เกิร์ล แฟร์เท็กซ์) และรางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น (ชาย) ได้แก่ นายแก้วไพทย์ บุญศิริการ (หนึ่งล้นเล็ก จิตร์เมืองนนท์).