ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2563 ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

ที่ประชุมรับทราบเรื่องการกำหนดสิทธิให้ความช่วยเหลือสวัสดิการแก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬาที่สังกัดจังหวัดในการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ โดยห้วงระยะเวลาการกำหนดสิทธิให้ความช่วยเหลือจะใช้ห้วงระยะเวลาเดียวกับการจัดทำประกันอุบัติเหตุของ กกท. โดยนักกีฬาหรือบุคลากรกีฬาที่บาดเจ็บ/เจ็บป่วย ให้ใช้สิทธิเบิกจ่ายจากบริษัทประกันอุบัติเหตุก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งหากยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาขอให้ใช้สิทธิที่ตนพึงมี เช่น ประกันสังคม สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลของหน่วยงานที่ตนสังกัด ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล เป็นต้น และหากยังไม่เพียงพอ สามารถเบิกจ่ายจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์และสิทธิการเบิกจ่ายที่กำหนด

จากนั้น ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการกำหนดแนวทางเงื่อนไขการพิจารณาให้ทุนการศึกษาท้ายประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุน เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ทุนการศึกษาแก่นักกีฬา และบุคลากรกีฬา พ.ศ.2562 สืบเนื่องจากประเด็นข้อขัดข้องเกี่ยวกับขั้นตอนการเสนอขอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาของนักกีฬาสังกัดสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด โดยแนวทางเดิมที่กำหนดไว้จะให้สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเสนอรายชื่อนักกีฬาและบุคลากรกีฬา เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการกีฬาจังหวัด และเสนอผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งปรากฎว่าขั้นตอนดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรทำให้การเสนอขอรับทุนการศึกษาเกิดความล่าช้า คณะอนุกรรมการด้านสวัสดิการกีฬา ได้มอบหมายฝ่ายเลขานุการ สำรวจความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว พบว่า ร้อยละ 64 ขอให้ กกท. จังหวัดและสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด พิจารณารายชื่อผู้ขอทุนการศึกษาร่วมกัน และให้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัด ลงนามหนังสือถึงผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติต่อไป โดยมิต้องเสนอผ่านคณะกรรมการกีฬาจังหวัด (เมื่อจังหวัดแจ้งขอรับทุนการศึกษาจากกองทุนแล้ว ให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. จังหวัด ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการกีฬาจังหวัด รายงานให้คณะกรรมการกีฬาจังหวัดเพื่อรับทราบต่อไป) ทั้งนี้ เมื่อเห็นชอบการกำหนดแนวทางเงื่อนไขการพิจารณาให้ทุนการศึกษาท้ายประกาศฯ ดังกล่าวแล้ว จะให้ฝ่ายกฎหมายของ กกท. พิจารณาตรวจร่างให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายก่อนประกาศใช้อีกครั้ง