Ultra Trail Thailand 2020 สัมผัสชีวิตในชนบทของประเทศไทย

นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีแถลงข่าวการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล รายการ Ultra Trail Thailand 2020 โดยมี นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายณรงค์ เทียมเมฆ ผู้แทนสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ ร่วมในพิธี ณ ห้องโถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา

การจัดการแข่งขันวิ่งเทรล รายการ Ultra Trail Thailand 2020 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการแบ่งประเภทการแข่งขันเป็น 5 ประเภทคือ ประเภทการวิ่งระยะทาง 175 กม., 119 กม., 82 กม., 62 กม. และ 24 กม. โดยให้เวลาการแข่งขันสูงสุดที่ 48 ชั่วโมง และมีการจำกัดผู้เข้าร่วมการแข่งขันไว้ที่ 1,500 คน โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจาก 20 ประเทศทั่วโลก

นายเขมพล อุ้ยตยะกุล กล่าวว่า คณะทำงานได้มีการวางแผนการทำงานให้พร้อมสำหรับรองรับการแข่งขันในครั้งนี้ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถผ่านการประเมินจากทาง UTMB (Ultra-Trail du Mont-Blanc รายการวิ่งอัลตร้าเทรลระดับโลก ณ เมืองชาโมนิกส์ ประเทศฝรั่งเศส) เพื่อที่จะได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในสนามซีรี่ส์ของโลก ซึ่งจะเป็นสนามแข่งขันแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยต่อไป โดยเส้นทางการแข่งขันในรายการ Ultra Trail Thailand 2020 นี้ มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยนักวิ่งจะได้วิ่งผ่านชุมชนในพื้นที่ทั้ง ม้ง และปกาเกอะญอ จะได้สัมผัสชีวิตในชนบทของประเทศไทย โดยเฉพาะการที่ต้องได้วิ่งผ่านนาข้าวสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เพราะรายการสำคัญใหญ่ ๆ ของโลกยังไม่มีรายการใดที่ต้องวิ่งผ่านทุ่งนาข้าวเลย จะเป็นการสร้างอัตลักษณ์ของการแข่งขัน สร้างความจดจำ และส่งออกเอกลักษณ์ของประเทศไทย อีกด้วย นอกจากนี้ การจัดการแข่งขันครั้งนี้งานมีนโยบายการแข่งขันคือ Zero Trash (ขยะเป็นศูนย์) ได้มีการกำหนดให้นักกีฬาทุกคนต้องพกแก้วน้ำและขวดน้ำ หรือภาชนะบรรจุน้ำมาเอง โดยในงานจะไม่มีแก้วน้ำบริการตลอดทั้งงาน และนักกีฬาจะมีจุดรับประทานอาหารตามที่สนามกำหนดไว้ และในส่วนของช่วงเวลาในการจัดการแข่งขันในครั้งต่อไปอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตรงกับฤดูทำนาขั้นบันได หรือฤดูที่ข้าวออกรวงซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปลายเดือนตุลาคม 2563 นี้

ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการแข่งขันจากสนามนี้ จะมีเอกสิทธิ์ที่จะช่วยพานักกีฬาทั้งชาวไทย และต่างชาติได้สิทธิ์การเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Ultra-Trail du Mont-Blanc ณ ประเทศฝรั่งเศส ได้ในทันที โดยไม่ต้องเสี่ยงโชคจับฉลากกับนักวิ่งนับแสนคนทั่วโลก อีกด้วย