ปั่นจักรยานสร้างเสริมสุขภาพ

การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิคอย่างหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับอวัยวะส่วนต่าง ๆ และช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ซึ่งส่งผลให้ผู้ปั่นมีรูปร่างและสุขภาพที่ดีด้วย แต่ก่อนหันมาออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ ควรศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนเป็นดีที่สุด
ประโยชน์ของการปั่นจักรยาน
การปั่นจักรยานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ส่งผลดีต่ออารมณ์และจิตใจ ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นได้เกือบเท่ากับการวิ่ง และช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย
นอกจากนี้ การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ จึงดีกับข้อกระดูกด้วย และยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงแก่กล้ามเนื้อบริเวณกลางลำตัว ก้น สะโพก และขา โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาส่วนหน้าและกล้ามเนื้อขาส่วนหลัง
สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน หากเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรปั่นจักรยานอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ส่วนเด็กหรือวัยรุ่นควรปั่นจักรยานอย่างน้อยวันละ 60 นาที เป็นประจำทุกวัน
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพปั่นจักรยานได้หรือไม่ ?
การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้ออักเสบบริเวณสะโพก หัวเข่า และข้อเท้า เพราะจะช่วยเสริมการทำงานของข้อกระดูก ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ทั้งยังดีต่อผู้ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บบริเวณข้อกระดูก และผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาด้วย ส่วนผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับแผ่นหลังก็สามารถปั่นจักรยานได้เช่นกัน แต่ควรออกกำลังกายรูปแบบอื่นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกลางลำตัวร่วมด้วย
นอกจากนี้ การปั่นจักรยานยังช่วยบริหารหัวใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง หรือกระทั่งผู้ป่วยโรคหัวใจด้วย ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรเลือกปั่นจักรยานอยู่ในร่ม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการปั่นจักรยาน
แม้จะเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ แต่การปั่นจักรยานเป็นเวลานานจะทำให้เกิดแรงกดระหว่างเบาะนั่งกับกึ่งกลางระหว่างทวารหนักกับถุงอัณฑะในเพศชาย ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งรวมของเส้นเลือด เส้นประสาท และจุดรับความรู้สึกของอวัยวะเพศชาย เมื่อปั่นจักรยาน กระแสประสาทจากสมองจะถูกส่งไปกระตุ้นอวัยวะเพศชาย ทำให้หลอดเลือดคลายตัว เพิ่มการไหลเวียนเลือด จึงทำให้เกิดการแข็งตัวขึ้น ทั้งนี้ หากเส้นเลือดและเส้นประสาทในบริเวณนี้ถูกกดทับเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้
อย่างไรก็ตาม นักปั่นชายทั้งหลายสามารถเลือกเบาะที่มีขนาดกว้างขึ้นและมีตัวเสริม หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังกาย โดยเพิ่มความหลากหลายของกิจกรรมแทนการปั่นจักรยานเพียงอย่างเดียวนาน ๆ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และควรหยุดปั่นจักรยานสักระยะหากมีอาการปวดหรือชาบริเวณกึ่งกลางระหว่างทวารหนักและถุงอัณฑะ แต่หากหยุดปั่นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา

ขอบคุณแหล่งที่มา : กระทรวงสาธารณะสุข