จิต เชี่ยวสกุล นายสนามผู้พลิกโฉม เวทีมวยราชดำเนิน เป็น ศูนย์กลางมวยไทยโลก

มวยไทย จัดอยู่ใน 5 เรื่องหลัก หรือ ศักยภาพ 5 F ที่กระทรวงวัฒนธรรม โฟกัสให้เป็น Soft Power ของประเทศ ประกอบด้วย อาหาร (Food), ผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film), เทศกาลประเพณี (Festival) และ มวยไทย (Fighting)

ในส่วนของ มวยไทย นั้น จิต เชี่ยวสกุล นายสนามมวยเวทีราชดำเนิน คือหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมในการผลักดัน มวยไทย เป็น ซอฟต์ พาวเวอร์ ดังจะเห็นได้จากปัจจุบัน เวทีราชดำเนิน ในยุคการบริหารงานของนายสนามหนุ่มรุ่นที่ 3 แห่งตระกูล เชี่ยวสกุล เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จนทำให้ มวยไทย เป็นกีฬาที่ผู้คน ดูได้ทุกเพศทุกวัย จนเวทีมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย กลายเป็น “ศูนย์กลางมวยไทยโลก” อย่างเต็มตัว

เวทีราชดำเนิน กับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด
สนามมวยเวทีราชดำเนิน ตั้งแต่ยุค นายเฉลิม เชี่ยวสกุล จนมาถึงยุค นายเฉลิมพงษ์ เชี่ยวสกุล บุตรชายนายเฉลิม พยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เวทีราชดำเนินเป็นที่นิยมของคนไทยมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพื้นที่โดยรอบสนาม, ประกบคู่มวยให้มีสีสันเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการติดแอร์เพื่อเอาใจแฟนมวย

จนเข้ามาสู่ยุคการบริหารของคนรุ่นใหม่อย่าง จิต เชี่ยวสกุล สนามมวยเวทีราชดำเนิน เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด

“ผมให้ความสำคัญในเรื่องภาพลักษณ์ของสนามมวยเป็นอย่างมาก สนามมวยต้องเป็นสนามกีฬาที่ผู้คนทุกเพศทุกวัย กล้าเข้ามาใช้บริการ เมื่อก่อนผมไม่ปฏิเสธว่า เวทีมวยในสายตาคนไทยดูน่ากลัว คนเยอะเต็มไปหมด ในสนามเต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล หรืออะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ”

“เมื่อ 10 ปีที่แล้วผมมองว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง วงการมวยน่าจะมีปัญหาแน่ ผมเห็นมาสักพักใหญ่ๆแล้ว คนไทยยังจำภาพเก่าๆ ของสนามมวยสมัยก่อน เด็กคนไหนไปดูมวยที่สนาม กลับบ้านต้องโดนพ่อแม่ตี ว่าจะเข้าไปดูมวยทำไม เห็นเห็นภาพลักษณะนี้มา 20 กว่าปี เราจึงพยายามจะเปลี่ยนสนามมวยให้เป็นสนามกีฬา ซึ่งผมว่าเรามาถูกทาง สังคมไทยหันกลับเข้ามาดูมวยไทยในเชิงกีฬาเพิ่มมากขึ้น”

นำความทันสมัยเข้าพัฒนาวงการมวย
ปี พ.ศ. 2561 จิต เชี่ยวสกุล เข้ามาเป็นนายสนามคนที่ 13 แม้จะเป็นการทำธุรกิจแบบครอบครัวจากรุ่นปู่สู่รุ่นพ่อแล้วมาต่อที่รุ่นหลานอย่างเขา แต่คนรุ่นใหม่อย่างจิตก็ทำให้เวทีราชดำเนินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ หัวคิดทันสมัย มีความตั้งใจจะนำพาเวทีราชดำเนินเข้าสู่ยุคใหม่ จึงสามารถพัฒนาเวทีราชดำเนินจนดูดีขึ้นในทุกด้าน

“ก่อนขึ้นมาเป็นนายสนามมวย ผมเข้ามาช่วยงานคุณพ่อและบรรดาคุณอาที่ขึ้นมาเป็นนายสนามต่อจากคุณพ่อ ไม่ต่ำกว่า 15 ปี ช่วงแรกผมเข้ามาช่วยงานด้านการตลาด เพราะเห็นว่าวงการมวยยังขาดเรื่องการทำโฆษณา ตอนนั้นมีนิตยสารหลายฉบับมาสัมภาษณ์ ผมหวังว่าจะช่วยประชาสัมพันธ์เวทีมวยทางอ้อม แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่”

“ผมพูดตามตรงว่า ไม่ได้เป็นห่วงแค่เวทีราชดำเนิน ผมเป็นห่วงวงการมวยโดยรวม ผมเห็นกราฟตั้งแต่เข้ามาทำงานในวงการมวย พบว่ากระแสความนิยมในกีฬามวยลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง วงการมวยน่าจะมีปัญหาแน่ ผมพยายามทำให้เป็นการท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นการสร้างความบันเทิงมากขึ้น จนมาถึงทุกวันนี้ มวยไทยเริ่มเป็นกีฬาอย่างแท้จริง เป็นการเปลี่ยนยุคของวงการมวยก็ว่าได้”

“สมัยก่อนแฟนมวยไม่กล้ามาดูมวยที่เวที ได้แต่ดูทางทีวี ปัจจุบันคนไทยกล้าเข้ามาดูมวยที่สนามมากขึ้น คนที่เล่นพนัน ผมมองว่ายังมีอยู่เท่าเดิม แค่ไม่มีความจำเป็นต้องมาดูที่สนาม เพราะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ให้ดูและติดตามผลการแข่งขันมากขึ้น เขามีวิธีเล่นของเขาโดยไม่ต้องเข้ามาดูมวยที่สนาม”

“ปัญหาจึงเกิด นั่นคือ สนามมวยและวงการมวยไม่รู้จะหารายได้จากไหน นอกจากค่าตั๋วจากชาวต่างชาติ และคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาดูมวยเป็นกีฬา เราจึงจัดรายการ RWS ร่วมกับบริษัท GSV ในฐานะพาร์ทเนอร์ เรามีแนวคิดการจัดมวยคล้ายกันคือ เน้นความบันเทิง ต้องการสร้างแฟนมวยรุ่นใหม่ เป็นผู้ชมมวยกลุ่มหลักในอนาคตให้ได้”

ภาครัฐ ช่วยผลักดัน มวยไทย เป็น ซอฟต์พาวเวอร์
ลำพังเวทีราชดำเนินกับบริษัท GSV คงไม่สามารถผลักดันมวยไทยได้รวดเร็วขนาดนี้ หากไม่ได้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งเราก็อยากให้ภาครัฐช่วยมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เป็นจังหวะดีที่เวทีมวยราชดำเนินจะเร่งผลักดันมวยไทยให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว นอกจากรายการ RWS ทุกวันศุกร์แล้ว ในวันอาทิตย์ยังมีรายการ มวยไทยมรดกคนไทย ที่ทาง กกท.ให้การสนับสนุนอีกหนึ่งรายการ”

“ทั้งสองรายการได้มีการทดลองอะไรหลายอย่าง เช่นการเปิดเผยคะแนน 3 ยกแรก เป็นการทดลองว่า จะนำพาวงการมวยไปในทิศทางที่ถูกต้องได้หรือไม่ ถ้าภาครัฐไม่ลงมาช่วยก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้รวดเร็วขนาดนี้ ถือเป็นนโยบายที่น่าจะเอื้อต่อวงการมวยทั้งระบบ”

“เรามีแผนจะใช้มวยไทยส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเราได้คุยกับ Plan B และบริษัท GSV มาตั้งแต่ต้น เพื่อทำให้สนามมวยเวทีราชดำเนิน เป็น 1 จุดเด่นของเกาะรัตนโกสินทร์ ที่คนต่างชาติมาวัดพระแก้ว หรือไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ แล้วต้องแวะมาดูมวยที่เวทีราชดำเนิน ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป นักท่องเที่ยวจะมาเมืองไทย ต้องมาดูมวยไทยที่เวทีราชดำเนิน”

“ถึงวันนี้ผมเชื่อว่า ชาวต่างชาติหลายคนเข้ามาเมืองไทยต้องมาดูมวยไทย นั่นคือความต้องการของผม ที่อยากให้ชาวต่างชาติมาเมืองไทย แล้วต้องดูมวยไทย อยากให้เขารู้สึกว่า ใครไม่ดูมวยไทย ถือว่ามาไม่ถึงเมืองไทย ผมจะทำให้มวยไทยชกสนุก ไม่จำเป็นว่าคนไทยจะต้องเก่งที่สุด แต่อยากให้นักท่องเที่ยวดูมวยไทยด้วยความสนุกและมีความสุขที่สุดครับ”