ดร.ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์ : นักวิชาการหัวใจรักษามวยไทย

จากเด็กชอบดูมวยตู้ หรือ มวยถ่ายทอดสดทางทีวี ที่ไม่น่าจะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนเล็กๆ ในวงการมวยได้ แต่เมื่อเขาเรียนจบการศึกษาขึ้นสูงสุด เป็น ดร.น็อต-ศุภศักดิ์ เงาประเสริฐวงศ์ อาจารย์ประจำสาขาการจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

เขาใช้ความรู้ความสามารถที่มี นำมาพัฒนาและยกระดับวงการมวย เพื่อสืบสานอนุรักษ์มวยไทยตามเจตจำนงที่ตั้งใจไว้ จนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณูปการต่อวงการมวยอีกคนหนึ่ง..

[เริ่มชอบกีฬามวยตั้งแต่เมื่อไหร่?]
“เป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่นนั่นแหละครับ ตอนเป็นเด็ก ผมก็ดูการ์ตูนเหมือนเด็กทั่วไป พอโตขึ้นมาหน่อย ก็หันมาดูกีฬา แล้วช่วงนั้นมีรายการมวยตู้ให้ดูทุกสัปดาห์ อาจจะไม่มากเท่าสมัยนี้ แต่รายการมวยตู้ในยุคนั้น น่าดูทุกรายการ ผมไล่ดูตั้งแต่ศึกจ้าวมวยไทยตอนเที่ยงวันเสาร์ ศึกวันทรงชัย พอวันอาทิตย์ก็ดูศึกอัศวินดำ และศึกมวยไทย 7 สี เรียกว่าผมดูมวยตู้จนจำหน้านักมวยแต่ละศึกได้แทบทุกคน”

[เข้าวงการมวยได้อย่างไร?]
“ตั้งแต่ผมเรียนปริญญาเอกครับ ผมรู้จักกับ ดร.ศิรภพ รัตนสุบรรณ ลูกชายน้าทรง (ทรงชัย รัตนสุบรรณ) เราทั้งคู่สนิทกัน ผมบอกว่าชอบดูศึกวันทรงชัยที่น้าทรงจัด ผมดูมาตั้งแต่ศึกศิลปะมวยไทยนายขมต้มรอบดึกที่เวทีลุมพินี จนน้าทรงเปลี่ยนมาจัดมวยตู้ภาคกลางวัน ตั้งแต่ที่เวทีกรุงเทพ, เดอะ มอลล์ ท่าพระ, มนตรี สตูดิโอ, เทศบาลอ้อมน้อย, เวทีอ้อมน้อย, สนามหลวง 2, เวทีศูนย์ฝึกมวยไทยที่โรงงานเซรามิค จนมาจัดที่เวทีธนกร สเตเดี้ยม ช่วงหลังผมมีโอกาสได้ช่วยงานน้าทรง ทั้งประสานคู่มวยและประกบคู่มวย จนกลายเป็นหนึ่งในทีมงานวันทรงชัย”

[การเข้ามาทำงานวงการมวยเต็มตัว ไม่รู้สึกเสียดายความรู้ที่เรียนมาบ้างหรือ?]
“ผมแบ่งเวลางานประจำคือเป็นอาจารย์สอนหนังสือ และงานในวงการมวยไว้แล้วครับ เรื่องนี้น้าทรงก็ทราบดี จึงมอบงานให้ผมทำโดยไม่กระทบงานสอนหนังสือแต่อย่างใด”

[ความรู้ที่ร่ำเรียนมา นำมาใช้ในวงการมวยอย่างไรบ้าง?]
“ผมเรียนเรื่องการบริหารและการจัดการมา สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในวงการมวยได้อย่างสบาย ผมช่วยงานน้าทรงได้ระยะหนึ่ง น้าทรงก็สนับสนุนให้เป็นโปรโมเตอร์ จัดศึกมวยไทยใจเกินร้อย ร่วมกับทีมงานบ้านคนดีสระบุรี ตั้งแต่ 21 พฤษภาคม 2560 ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอล์ล ชั้น 6 อิมพีเรียล ลาดพร้าว ถ่ายทอดสดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.30 – 12.30 น.ทางทีวี 24 สถานีประชาชน”

“จัดมวยตู้รอบสายวันอาทิตย์มาได้ 6 เดือน สนามมวยเวทีลุมพินี แต่งตั้งผมเป็นโปรโมเตอร์ จัดศึก ดร.น็อตมวยไทยซุปเปอร์ไฟต์ เมื่อ 15 ธันวาคม 2560 คู่เอกวันนั้น ผมจัด พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทย แก้มือชนะคะแนน มรกต เพชรสี่หมื่น มีแฟนมวยเข้ามาดูหนาตาใช้ได้ครับ”

[ทราบมาว่าจัดมวยแต่ละครั้งมักจะเข้าเนื้อ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก?]
“ถูกต้องครับ เนื่องจากผมไม่มีนักมวยในสังกัด เวลาจัดมวยแต่ละครั้ง ต้องจ้างนักมวยมาชกทุกคู่ จึงใช้ต้นทุนสูงกว่าโปรโมเตอร์ท่านอื่นๆ เพราะผมอยากให้นักมวยได้ค่าตัวที่เหมาะสม ผมอยากให้เขาอยู่ได้ ส่วนเราอยู่ไม่ได้ก็ต้องยอม แต่ก็พยามหารายได้จากทางอื่นมาถัวเฉลี่ยกับค่าใช้จ่ายตรงนี้”

“ช่วงหนังผมจึงหันมาทำค่ายมวย ส่วนใหญ่จะสร้างกันตั้งแต่ยังไม่ดัง แต่ก็ต้องลงทุนซื้อนักมวยมีชื่อค่าตัวแพงเข้ามาอยู่ในสังกัด เพื่อจัดชกเรียกแฟนมวย ต่อมาเกิดโควิด-19 ระบาด ไม่สามารถจัดมวยได้ กระทั่งสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ผมจึงหันมาจัดมวยถ่ายทอดสดในหลายแพลตฟอร์ม เพื่อให้นักมวยมีรายการชก และมีรายได้มาหมุนเวียนจัดนัดต่อๆไป แต่ก็ยังประสบปัญหาขาดทุนอยู่ดี จึงต้องหานายทุนมาช่วยสนับสนุน เพื่อให้วงการมวยขับเคลื่อนต่อไปได้”

[ปัจจุบันทำอะไรในวงการมวยบ้าง?]
“ผมก็ยังเป็นโปรโมเตอร์อยู่ แต่ไม่ได้จัดประจำที่สนามมวยเวทีลุมพินีแล้ว หันมาจัดมวยนัดพิเศษ หรือรายการเฉพาะกิจ โดยเฉพาะรายการที่ภาครัฐสนับสนุน ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นการจัดนักมวยหน้าใหม่ขึ้นชก เท่ากับเป็นการช่วยให้วงการมวยรากหญ้าในต่างจังหวัดได้ขับเคลื่อนต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก”

“ขณะเดียวกัน ผมยังรับงานเป็นวิทยากรพิเศษให้ความรู้เรื่องมวยไทย ทั้งในแง่ของข้อมูลวิชาการ และการปรับตัวต่อสู้กับวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ รวมทั้งยังเป็นคณะทำงานให้กับหน่วยงานรัฐ อย่างเช่น สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย และเป็นคณะกรรมการให้กับองค์กรต่างๆ ในวงการมวยด้วยครับ”

“ผมอาจจะเข้ามาสัมผัสวงการมวยไทยได้ไม่กี่ปี ประสบการณ์ในสนามมวยอาจมีน้อย แต่ผมดูมวยและศึกษาหาข้อมูลจากการอ่านหนังสือมวยมานาน พอจะรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักมวยว่ามีอะไรบ้าง จึงอยากใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่มี ช่วยเหลือนักมวยและคนวงการมวยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นครับ”

[อยากฝากอะไรถึงแฟนมวยและบุคคลวงการมวย?]
“วงการมวยในสายตาคนนอก หลายคนอาจจะมองว่าน่ากลัว แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสมา คนวงการมวยส่วนใหญ่มีความจริงใจ และเป็นกันเองดีมาก ผมในฐานะคนวงการมวย อยากเชิญชวนคนไทยหันมาดูมวยไทย ลองเปิดใจดูสักครั้งหรือสองครั้ง แล้วจะพบว่า มวยไทยสมัยนี้ชกสนุกน่าติดตามมากกว่ามวยไทยเมื่อ 5-6 ปีก่อนมากครับ”