รอฉาด เทพวารินทร์ : จากชาวประมงสู่เทรนเนอร์ยอดเยี่ยม กกท.

“ผมไม่เคยคิดจะเป็นนักมวยมาก่อนเลย เพราะผู้ชายในครอบครัวผม ชกมวยทั้งบ้าน ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาทำอาชีพประมง ออกเรือไปหาปู หาปลา หากุ้ง หาไก่ หาเสือ หาน้ำเต้า ตามเรื่องตามราว แต่กลับกลายเป็น ญาติๆ มาบ่นให้ฟังว่า ทำไมถึงไม่เป็นนักมวย ทั้งที่พี่ชายกับน้องชายก็ชกมวย”

“ผมนั่งคิดอยู่นาน จนวันที่จะพาน้องชายไปชก หลังไปเปรียบจนได้คู่มา ปรากฏว่าน้องชายผมไม่สบาย ผมมีรูปร่างและน้ำหนักตัวพอๆ กับน้องชาย จึงตัดสินใจไปชกแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการยึดอาชีพพ่อค้ากำปั้น”

“จนในเวลาต่อมา กลายเป็นไอ้แอ้ดฝีมือดีของเวทีราชดำเนิน ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นเทรนเนอร์ สร้างแชมเปี้ยนประดับค่ายมากมายหลายคน” รอฉาด เทพวารินทร์ หรือที่ลูกศิษย์ลูกหาเรียก บังสะตอ เล่าที่มาของการเป็นนักมวยโดยไม่ตั้งใจ

ทั้งที่ไม่มีความสนใจที่จะยึดอาชีพพ่อค้ากำปั้น แต่เมื่อเส้นทางถูกขีดเขียนมาอย่างนั้น รอฉาด เทพวารินทร์ จึงขึ้นเวทีต่อสู้หารายได้ภายใต้กติกามวยไทย ปรากฏว่า นักมวยสายเลือดดีอย่าง บังสะตอ ยิ่งชกยิ่งเก่ง เขาขึ้นชกไฟท์สำคัญกับนักมวยดังที่เวทีราชดำเนินมานับไม่ถ้วน

อาทิเช่น โรจน์ณรงค์ ดาวแปดริ้ว, สิงห์ดำ อ.อุกฤษณ์, ฤทธิเดช ส.เพลินจิต และสุดยอดไอ้แอ้ดระดับประเทศอีกหลายคน ถือได้ว่า สะตอ เกียรติวิเชียร เป็นนักชกร่างเล็กระดับแถวหน้าของเมืองไทยคนหนึ่งก็ว่าได้ รอฉาด มีพี่ชายชื่อ ร่อเฉด เทพวารินทร์ หรือ เทพวารินทร์ เกียรติเพชร อดีตดาวรุ่งมวยตู้ช่อง 7 สี เมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นไอดอล

“ผม กับ พี่ชาย มีชื่อคล้ายกัน ผมชื่อ รอฉาด ส่วนพี่ชายชื่อ ร่อเฉด เราทั้งคู่ได้รางวัลผู้ฝึกสอนดีเด่น จาก กกท.และ สคม. มาเหมือนกัน แต่หลายคนเข้าใจผิด พอเห็นรูปพี่ชายผม ก็คิดว่าเขาได้รางวัล 2 ปีซ้อน เช่นเดียวกับคนที่เห็นรูปผมในข่าว ก็คิดว่า ผมได้รางวัลผู้ฝึกสอนดีเด่น 2 ปีติดเช่นกัน”

เมื่อไขข้อข้องใจกับแฟนมวยเป็นที่เรียบร้อย รอฉาด เทพวารินทร์ พูดถึงเส้นทางการค้ากำปั้นของตัวเองต่อว่า..

“ผมแขวนนวมเมื่ออายุ 20 ปี เพราะอยากเปลี่ยนมาสอนมวยมากกว่า ตอนนั้นผมไปเจอ โมกขศักดิ์ ลูกบ้านใหญ่ นักมวยรุ่นพี่ จึงชวนผมมาสอนมวยที่ค่ายป๋าโจ-ประวิทย์ ถืออยู่ เพราะพี่โมกขศักดิ์ต้องกลับไปทำธุระที่บ้าน จึงฝากให้ผมดูแลนักมวยแทนแก”

“นักมวยที่ผมเข้ามาดูแลต่อจากพี่โมกข์ก็มี แสงหิรัญ, ยอดบัวงาม, เดชดำรงค์ และนักมวยดาวรุ่งอีกหลายคน นักมวยเหล่านี้ ผมทำจนได้แชมป์ หรือไม่ก็มีค่าตัวแพง ผมสอนมวยอยู่ที่ค่ายลูกบ้านใหญ่ระยะหนึ่ง จึงขอลาออกไปอยู่ค่ายอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า อยู่ค่ายไหนก็สร้างนักมวยเป็นแชมป์และประสบความสำเร็จได้เช่นกัน”

“ผมมาอยู่ค่ายเอ็นนี่มวยไทย ตามคำชักชวนของสารวัตรแกะ-พ.ต.ต.ธีรวัฒน์ ชูกรณ์ มาช่วยล่อเป้าให้ ก้องไกล จนได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศมวยรอบอีซูซุ และคว้าแชมป์มาครองสำเร็จ หลังจากนั้นก็ย้ายมาสอนมวยที่ค่าย ส.โชคมีชัย ของน้าตู่-สุรกิจ มิ่งเมือง โดยที่สารวัตรแกะ ให้การสนับสนุนเต็มที่”

“ช่วงที่ผมเข้ามาเป็นเทรนเนอร์ที่ค่ายมวย ส.โชคมีชัย ใหม่ๆ ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา กำลังลุ้นเข้ารอบชิงมวยรอบปูนเสืออยู่พอดี ผมมาช่วยทำจนฉลามดำที่เก่งอยู่แล้ว ได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์มาครอง”

“เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ฉลามดำก็เพิ่งคว้ารางวัล นักมวยไทยดาวรุ่งดีเด่น ในงานเชิดชูเกียรติบุคคลวงการมวย เนื่องในวันมวยไทย และล่าสุด ฉลามดำทำสถิติไม่แพ้ใครตลอดปี 2565 โดยชนะรวด 7 ไฟท์ ผมอยากเห็นเขาคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม ของสมาคมผ้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จะตัดสินในเดือนเมษายน เพราะเขาเป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาก ผมหวังว่าปี 2566 น่าจะเป็นปีทองของ ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา บ้าง ส่วนผมก็จะช่วยทำให้เขาประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านครับ”