เฮลั่น แฟนกีฬากว่า 5 พันล้านคนทั่วโลก เตรียมชมโอลิมปิก 2020 ผ่านหน้าจอ

แฟนกีฬาชาวญี่ปุ่น ไม่สามารถเข้าชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ในสนามได้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกัน “โควิด-19” แต่แฟนกีฬาชาวญี่ปุ่น และแฟนกีฬาทั่วโลก รวมมากกว่า 5 พันล้านคน จะได้สัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ผ่านหน้าจอ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในระบบ 4 K เป็นครั้งแรก โดยจะมีระบบการตอบสนอง และรับรู้ความรู้สึก ระหว่าง นักกีฬา และกองเชียร์ ไปด้วยกันตลอดเกม เหมือนอยู่ในสนามจริง

วันที่ 10 ก.ค. 64 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) กล่าวว่า ภายหลังจาก รัฐบาลญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วย สูงอยู่ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะครอบคลุมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมนี้ และส่งผลให้ทางการตัดสินใจ ไม่ให้แฟนกีฬาชาวญี่ปุ่นเข้าสนาม เพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแฟนกีฬาชาวญี่ปุ่น ไม่สามารถเข้าชมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ในสนามได้ แต่แฟนกีฬาชาวญี่ปุ่น และแฟนกีฬาทั่วโลก รวมมากกว่า 5 พันล้านคน จะได้สัมผัสความตื่นเต้นของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก โตเกียว 2020 ผ่านหน้าจอ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และครอบคลุมมากขึ้น ด้วยพันธมิตรการออกอากาศ ที่มากกว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งก่อนๆ

ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าว “ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติ ได้เน้นย้ำการสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการจัดการแข่งขันโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ รวมถึงข้อตกลงเรื่องการพักรบระหว่างการแข่งขันโอลิมปิก โดยประธานสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ได้ยื่นคำร้องต่อประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ให้ทุกชาติปฏิบัติตามข้อตกลง การพักรบช่วงโอลิมปิก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม-12 กันยายนนี้ หรือ 7 วันก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ไปจนถึง 7 วันหลังจาก พาราลิมปิกเกมส์ จบลง”

สำหรับการถ่ายทอดสดโอลิมปิก โตเกียว 2020 ครั้งนี้ ในญี่ปุ่น เอง จะมีการออกอากาศทางทีวีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากโอลิมปิก ริโอ 2016 ส่วนในสหรัฐอเมริกา NBC Universal จะออกอากาศมากกว่า 7,000 ชั่วโมงครอบคลุมทีวี และแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งเป็นสถิติการถ่ายทอดโอลิมปิกของสหรัฐฯ ขณะที่ทั่วยุโรป Discovery Eurosport จะถ่ายทอดสดทางทีวี และแพลตฟอร์มดิจิทัล นานถึง 4,000 ชั่วโมง ซึ่งเนื้อหาในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ จะออกอากาศใน 50 ประเทศ

โดย ไอโอซี และทีมถ่ายทอดของไอโอซี (Olympic Broadcasting Services หรือ OBS) ซึ่งทำงานร่วมกับคณะกรรมการจัดโอลิมปิก โตเกียว 2020 และพันธมิตรการออกอากาศโอลิมปิก ได้สร้างชุดเครื่องมือดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Share the Passion” จะช่วยให้นักกีฬามีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน และครอบครัวจากสถานที่แข่งขัน และทำให้บรรดาแฟนจากทั่วโลก สามารถมีส่วนร่วมในการสนับสนุนฮีโร่ด้านกีฬาของพวกเขา

ส่วน Fan Video Matrix จะช่วยให้แฟนๆ ได้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การแข่งขันอย่างแท้จริง โดยแฟนๆ จะสามารถแบ่งปันปฏิกิริยาของพวกเขาต่อการแข่งขันกีฬาในวิดีโอเซลฟี่ 5 วินาที ซึ่งจะถูกนำไปแสดง เป็นเมทริกซ์วิดีโอภายในสถานที่แข่งขัน ขณะที่ Cheer Map หรือ แผนที่เชียร์ จะมีปุ่ม “เชียร์” เสมือนจริง ที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มดิจิทัลของผู้แพร่ภาพกระจายเสียงหลายแห่ง แฟน ๆ สามารถดูฟีดการออกอากาศของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และปรบมือหรือเชียร์ โดยคลิกที่ปุ่มได้ ซึ่งระบบจะรวบรวมเสียงเชียร์ทั้งหมด และแสดงแผนที่โลกของ “กิจกรรมเชียร์” โดยแผนที่จะถูกส่งเป็นวิดีโอสตรีมไปยังผู้แพร่ภาพกระจายเสียงและแสดงบนกระดานวิดีโอของแต่ละสนาม ด้าน Athlete Moment-Family & Friends ในสถานที่ที่กำหนด นักกีฬาโอลิมปิก จะสามารถโต้ตอบสด ๆ ได้ทันที กับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่บ้าน หลังการแข่งขัน ผ่านสถานี “Athlete Moment” โดยเฉพาะ

สำหรับโอลิมปิก โตเกียว 2020 ทีมถ่ายทอดสดของไอโอซี จะเพิ่มขอบเขตของการออกอากาศกีฬาโอลิมปิก ด้วยการผลิตเนื้อหามากกว่า 9,000 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าเนื้อหาในโอลิมปิก ริโอ ในปี 2016 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และเป็นการถ่ายทอดสดครั้งแรกในประวัติศาสตร์กีฬาโอลิมปิกที่จะส่งสัญญาณในระดับ Ultra High Definition (4K) HDR พร้อมระบบเสียง Immersive Audio (5.1.4) ผู้ชมทั่วโลกจะได้รู้จักกับมุมกล้องที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มีการรีเพลย์ภาพ 360 องศา การถ่ายทอดสดจากกล้อง Virtual Reality (VR) หลายตัว และข้อมูลการวิเคราะห์ที่ประมวลผลโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากกว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งไหนๆ

 

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์