โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป : กว่าจะเป็นสุดยอดนักมวยเข่าหมายเลข 1 ของวงการมวยไทย

“ผมอาจจะไม่ใช่มวยเข่าที่ดีที่สุด ตามที่พี่ๆ สื่อมวลชนยกย่อง แต่ผมก็มั่นใจว่า เพลงเข่า ที่ค่าย เอฟ.เอ.กรุ๊ป ถ่ายทอดให้ผม ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน”

นี่คือคำกล่าวแบบถ่อมตน ตามแบบฉบับพระเอกหนังไทยของ นักชกวัย 30 ปี จาก อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งในเวลานี้ ถูกยกย่องให้เป็น นักมวยเข่าที่ดีที่สุดในโลก เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์

โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป เผยเคล็ดลับ จากนักมวยเตะ-เข่า ระดับสามัญธรรมดา จนกลายเป็น นักมวยเข่าชื่อก้องแห่งสยามประเทศ เป็นเพราะการฝึกฝนอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้เขาพลิกสไตล์ จากมวยฝีมือตามตำราที่ไม่มีอะไรหวือหวาน่าฮือฮา จนกลายเป็นมวยเข่าสไตล์คีมล็อก ที่รัดตีคู่ต่อสู้จนดิ้นไม่หลุดระดับสุดยอดของเมืองไทย

“ความสำเร็จของผม มาจากการฝึกฝน เหมือนคำกล่าวที่ว่า อัจฉริยะสร้างได้ นั่นแหละครับ สำหรับผม อาจจะไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมวยไม่มีพรสวรรค์อย่างผม ต้องใช้พรแสวงเข้าช่วย ผมต้องสร้างมันขึ้นมา และทุกคนก็ทำอย่างผมได้ ขอเพียงมีความตั้งใจเท่านั้น”

ชกมวยสนองความต้องการ “ยอดคุณพ่อ”
โยธิน เหมุทัย หรือ เท่ห์ เกิดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2535 ณ บ้านเลขที่ 55 หมู่ 10 บ้านธาตุ ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พ่อชื่อนายบุญกร แม่ชื่อนางหนูเจน เท่ห์เป็นลูกคนโตในจำนวน 2 คน (ชายล้วน) มี “บักทิน” น้องชายสุดเลิฟเคยชกมวยในชื่อ วิษณุ สะแกทองรีสอร์ท แต่ไม่เด่นและดังเท่าพี่ชาย

“พ่อผมเป็นนักมวยเก่าชื่อ รุ่งฤทธิ์ ค่ายอะไรผมจำไม่ได้ครับ พ่ออยากให้ผมและน้องชายชกมวย พอผมอายุ 7 ขวบ พ่อก็หัดมวยให้ ผมหัดอยู่ประมาณ 2 เดือน จึงขึ้นชกครั้งแรกในชื่อ ลูกเท่ห์ ศักดิ์อำนวย น้ำหนักตัวประมาณ 20 กิโลกรัม วันนั้น ยอมรับว่าผมเกร็งมาก แต่ก็ต่อยเอาชนะคะแนน ธนูเพชร สิงห์ น.ว. ไปได้ในกำหนด 3 ยก ได้ค่าตัวมา 200 บาท”

“จากนั้นขึ้นชกอีกประมาณ 17 ไฟท์ พ่อก็พามาอยู่ค่าย ส.สำรวยนำโชค ที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมทั้งเปลี่ยนสีเสื้อมาเป็น ลูกเท่ห์ ส.สำรวยนำโชค ผมชกจนได้ครองแชมป์มวยรอบช้างชนช้าง น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ต่อมา ค่าย ส.สำรวยนำโชคปิดตัวลง เจ้าของค่ายยกผมให้ เสี่ยเฒ่า สะแกทองรีสอร์ท ดูแลต่อ จึงเปลี่ยนชื่อ-แซ่ใหม่เป็น โยธิน ส.สมรักษ์”

“ผมเข้ามาชกเมืองกรุงเพราะ เบิ้ม ภูดิน กับ สิงห์เกษม บ้านพลเมืองดี เป็นผู้เสนอชก พอได้เข้ามาชกมวยรอบไทยประกันชีวิต ครั้งที่ 1 จึงเปลี่ยนสีเสื้อใหม่เป็น โยธิน สะแกทองรีสอร์ท ไฟท์แรกชนะ น้องโอ๋ ศิษย์ซ้ออึ่ง ไฟท์ต่อมาแพ้ มาลัยเพชร ศ.พรไชย เพราะยกแรกโดนศอกก้นเตี้ย ถึงจะไม่โดนนับแต่ก็เสมือนนับ เซียนมวยหันมาเชียร์มาลัยเพชร จนผมออกอาวุธแบบไร้เสียงเฮ สุดท้ายจึงไล่ไม่ทัน แพ้คะแนนกลับลงมาอย่างน่าเจ็บใจ”

“ไฟท์สุดท้ายผมต้องชกกับ บักโจ้ ดาบรันสารคาม ซึ่งตกรอบไปแล้ว ปรากฏว่าเขาถอนชกยอมแพ้บาย ผมจึงชกเอาค่าตัวชนะ เทอดไท้ ท.เทพสุทิน หรือ สิงห์ดำ ลูกดอนคลัง ได้เข้ารอบตัดเชือกมาพลิกแซงชนะคะแนน ดาวพระศุกร์ โฮคิทเช่น ก่อนมาย้ำแค้นเอาชนะน้องโอ๋ได้อีกครั้งในรอบชิง กลายเป็นแชมป์มวยรอบไทยประกันชีวิตคนแรกของเมืองไทย”

พลิกสไตล์จาก มวยฝีมือ เป็น มวยเข่า ขั้นเทพ
“ตั้งแต่ผมย้ายมาอยู่ค่ายมวยเอฟ.เอ.กรุ๊ป ตั้งอยู่หลัง ช่อง 7 สี ของ เสี่ยต๋อง-สุรพล ประสิทธิ์พันธ์ มีเสี่ยเรียม-บุญธรรม เรืองยะวี เป็นหัวหน้าคณะ เสี่ยเรียมเคยดูผมชกมาหลายไฟท์ พอมาซ้อมวันแรก แกก็ให้เน้นปล้ำเข่า พร้อมๆ กับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ทั้งวิ่ง ทั้งเล่นเวท ควบคู่กันไป”

“เสี่ยเรียม บอกว่า ค่ายมวยเอฟ.เอ.กรุ๊ป เน้นทำมวยเข่าแข็งแรง ต่อยมวยสมัยนี้ ถ้ามัวแต่ชกจังหวะฝีมือ นอกจากดังยากแล้ว ยังแพ้ง่ายอีกด้วย ทุกค่ายจึงหันมาทำมวยเข่าเกือบหมด จะแพ้ชนะไปวัดกันที่เทคนิคการสอนของแต่ละค่าย ตอนนั้นที่ค่ายมีพี่เพชรบุญชู เป็นต้นแบบ แต่ผมเห็น พี่โพธิ์แก้ว ฝนจางชลบุรี ไล่แขนจับล็อกตีเข่าแล้วผมชอบ จึงยึดทั้งคู่เป็นไอดอล เป็นต้นแบบในการฝึกซ้อม”

“ผมใช้เวลาฝึกไล่แขนอย่างเดียว กับคู่ปล้ำตัวใหญ่ๆ ซึ่งที่ค่ายมีอยู่มากมาย ทั้ง คมอาวุธ, วังน้ำเย็น และ สองฝั่งโขง รวมทั้งฝึกปล้ำหาเหลี่ยมกับเทรนเนอร์ นอกจากจะฝึกไล่แขนอย่างหนักแล้ว ผมยังซ้อมปล้ำตีกับกระสอบทรายอีก 600 ครั้งต่อวัน แบ่งเป็น 3 เซ็ต เซ็ตละ 200 ครั้ง และปิดท้ายด้วยการซ้อมเตะและถีบกระสอบอีกวันละ 10 นาที เพื่อให้ขามีกำลัง”

โยธิน เป็นมวยเข่า ที่ไม่เหมือนมวยเข่าโดยทั่วไป ซึ่งจะเน้นปล้ำฟัดรัดวงในอย่างเดียว แต่มวยเข่าอย่างเขา จะใช้จังหวะฝีมือ เดินหาจังหวะเข้าทำ แล้วใช้แขนทั้งสองข้างไล่หาเหลี่ยมตีหรือจะกดแทง ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะ เขาจึงเป็นมวยเข่าที่ดูไม่เบื่อ ขณะเดียวกัน ก็เป็นมวยเข่าที่น่าศึกษาในลีลาการออกอาวุธอีกด้วย

ดวงถูกโฉลกกับ “แชมป์มวยรอบ”
อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า โยธิน คว้าแชมป์มวยรอบช้างชนช้าง น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ตั้งแต่ยังเด็ก พอเข้าเมืองกรุง ก็คว้าแชมป์มวยรอบไทยประกันชีวิต ครั้งที่ 1 พิกัด 113 ปอนด์ ไปครองได้อีก

ล่าสุด เขาได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันมวยรอบเงินล้าน RWS ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ พิกัด 126 ปอนด์ ชกไฟท์แรก ชนะคะแนน อายัด อัลบัด หรือ อายัด วีนั่มมวยไทย ชาวอียิปต์ ขาดลอย ไฟท์ 2 ชนะคะแนน จอห์น ชิงค์ หรือ จอห์น ไทเกอร์มวยไทย ชาวอังกฤษ ขาดลอย และปิดท้ายรอบแรก เอาชนะคะแนน เพชรรุ่งเรือง สจ.โต้งปราจีน ขาดลอย

ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นที่ 1 ของสาย ไปพบกับ ดอกไม้ป่า ต.สุรัตน์ แต่คู่ชกทำน้ำหนักไม่ได้ จึงได้ชนะผ่าน และขึ้นชกเอาค่าตัว ชนะคะแนนคู่ปรับเก่า อายัด อัลบัด ขาดลอย 30-27 ทั้งสามเสียง ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับคู่ปรับเก่า เพชรรุ่งเรือง สจ.โต้งปราจีน ที่เคยเอาชนะมาอย่างสบาย

ถ้าฟ้าไม่ผ่ากลางเวทีราชดำเนินซะก่อน เชื่อว่าหลังวันศุกร์ที่ 16 ธ.ค.นี้ แชมป์ RWS รุ่นเฟเธอร์เวท ซึ่งเป็นแชมป์ราชดำเนินเวิลด์ซีรีส์คนแรกของโลก จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก โยธิน เอฟ.เอ.กรุ๊ป ยอดมวยเข่าที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ นั่นเอง..!!